วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บุคคลที่สถานะไม่ชัดเจน

บุคคลที่สถานะไม่ชัดเจน

โดย Poy-Rewanee Chaichaowarat เมื่อ 1 พฤษภาคม 2012 เวลา 16:00 น. ·


อาจารย์มหาวิทยาลัย...ฟังดูเป็นอาชีพที่ดูมีเกียรติและศักดิ์ศรี มีหน้ามีตาในสังคมดีทีเดียว แต่ใครจะคิดบ้างว่า สถานะของอาจารย์มหาวิทยาลัยในปัจจุบันนี้ได้แตกต่างกับในอดีตมากมายเกินกว่าจะคาดคิดถึง

จริงอยู่ที่ภาระหน้าที่หลักของการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยคือการสร้างบัณฑิตระดับอุดมศึกษาเพื่อป้อนเข้าสู่สังคม เป็นกลไกในการขับเคลื่อนหลักของระบบสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ แต่ทว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยส่วนหนึ่ง(ซึ่งในปัจจุบันอาจนับได้ว่าเป็นคนส่วนใหญ่)กลับมีสถานภาพแตกต่างจากอาจารย์มหาวิทยาลัยอีกกลุ่มหนึ่งอย่างชัดเจน ด้วยคำเรียกขานที่แตกต่างกันว่า "พนักงานมหาวิทยาลัย"

ด้วยคำเรียนกขานที่แตกต่างกันเช่นนี้..ด้วยระยะเวลาในการถือกำเนิด ทำให้มีความเป็นอาวุโสอ่อนด้อยกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นข้าราชการ..สวัสดิการและค่าตอบแทนที่ผู้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน หากแต่มีคำเรียกขานทางสถานะแตกต่างกันพึงได้ จึงน้อยกว่าอย่างที่หลายฝ่ายไม่อาจคาดคิดถึง

..เจ็บป่วยคราใดใช้สิทธิ์การรักษาประกันสังคม เช่นเดียวกับลูกจ้างห้างร้านทั่วไป

...ด้วยรายได้ที่รัฐบาลประกาศปาวๆ ว่า ป.ตรี หมื่นห้า แต่อาจารย์มหาวิทยาลัยผู้ซึ่งเป็นเพียงพนักงานมหาวิทยาลัย จบ ป.โท ป.เอก เกลื่อนกลาด ด้วยเกณฑ์ที่ สกอ.ครอบไว้ว่า จะทำการสอน ป.ตรี ได้ผู้สอนต้องมีคุณวุฒิอย่างน้อย ป.โท..กลับได้รับเงินเดือนน้อยกว่าลูกศิษย์ตัวเอง ...สังคมภายนอกที่มองว่าอาจารย์มหาลัยเป็นหนึ่งในกลุ่มอาชีพผู้มีอันจะกินพึงรักษาหน้าตัวเองด้วยการเสียภาษีสังคมที่เดือนๆ นึงก็มิใช่น้อย..หากมีแผนในอนาคตว่าจะจัดงานที่เรียกภาษีสังคมคืนได้ก็ว่ากันไป แต่สำหรับผู้ที่ไม่เห็นอนาคตในด้านนั้นก็มีหนี้ศูนย์ปีๆ นึงเหยียบครึ่งหมื่นกันเลยทีเดียว

.....การทำผลงานทางวิชาการ แน่นอนว่า อาจารย์มหาวิทยาลัยทุกคนใฝ่ฝันว่าจะพัฒนาศักยภาพตัวเองเป็นทุนเดิม ย่อมต้องการพัฒนาตำแหน่งทางวิชาการ ด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจยิ่งนัก..ข้าราชการครูดูเหมือนจะได้รับค่าตอบแทนมากกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยเสียด้วยซ้ำ..เช่นนี้แล้ว มิสู้ให้อาจารย์มหาวิทยาลัยลาออกไปพัฒนาเด็กและเยาวชนของชาติในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานดีกว่าหรือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความเข้มงวดกวดขันในเชิงวิชาการที่ตำแหน่ง ผศ. รศ. หรือ ศ. ต้องรับภาระอันหนักอึ้งที่แบกไว้ กว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

....นอกจากภาระงานสอนอันหนักอึ้ง..ภาระงานอื่นก็มิใช่น้อย กล่าวได้ว่าเป็นอาชีพที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่ทว่าค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ได้ช่างน่าภูมิอกภูมิใจยิ่งนัก และด้วยสถานะที่ไม่ชัดเจนเช่นนี้จึงทำให้อาจารย์มหาวิทยาลัยส่วนหนึ่งจำเป็นต้องหาทางเลือกที่ดีกว่า ไปอยู่ในสถานที่ที่ให้ค่ามันสมองได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า จนเกิดการสมองไหลเกิดขึ้น..เป็นเรื่องที่ไม่สามารถกล่าวโทษผู้ใดได้เลยจริงๆ

มนุษย์ ปุถุชน คนธรรมดาล้วนต้องการสิ่งที่ดีกว่าและชัดเจนด้วยกันทั้งสิ้น..การแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดจึงไม่ใช่สิ่งผิด

หลายครั้งหลายคราปฏิบัติหน้าที่ด้วยความคิดที่ว่าจะพัฒนาบ้านเรา..นึกถึงคำของเคเนดี้เสมอ (แม้จะไม่ใช่อเมริกันจ๋าก็ตามที) “Don’t ask what the country can do for you, ask what you can do for your country” แต่วันนี้คิดว่า..ควรถามในใจเสียงดังๆ ได้แล้วว่า..เราได้อะไรเปนการตอบแทน..นอกจากความสบายใจและความสุขที่เห็นลูกศิษย์ได้ดิบได้ดีมีเงินเดือนเยอะกว่า..เพราะทุกครั้งที่เติมน้ำมันรถและซื้อกาแฟสดกิน ไม่สามารถหยิบยื่นความสบายอกสบายใจ ความภาคภูมิใจและความสุขให้แทนธนบัตรในกระเป๋าสตางค์ได้เลยจริงๆ

เครดิต : http://www.facebook.com/notes/poy-rewanee-chaichaowarat/บุคคลที่สถานะไม่ชัดเจน/413089042049797

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น